by pkpunathai
เมื่อพูดถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองไทยเราแล้ว อาจจะกล่าวได้ว่า "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" แต่นอกจากในน้ำจะมีปลาแล้วก็ยังมีกุ้ง หอย ปู ด้วยเช่นกันนะครับ ในที่นี้เราจะมากล่าวถึงปูนาซึ่งเมื่อก่อนมีอยู่ในธรรมชาติอย่างมากมาย แต่ก็เป็นศัตรูกับพืชอย่างเช่นข้าวที่ชาวนาปลูกกัน จนทำให้ต้องหาวิธีการกำจัดปูนาให้หมดไป ปัจจุบันนี้ปูนาได้ลดจำนวนลงอย่างมากอาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติหรือการกระทำของมนุษย์ซึ่งได้ทำการกำจัดปูนาที่เป็นศัตรูข้าวกันโดยใช้สารเคมีเข้ามากำจัดกันมาก จนทำให้จำนวนปูนาลดลงดังกล่าว
แต่วันนี้เราจะต้องทำให้ปูนาที่เป็นศัตรูข้าวและพืชผลทางการเกษตรเหลือน้อยลงนี้ มาทำให้เกิดอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ให้กับพวกเราและเกษตรกร พูดง่ายๆ ก็คือ ทำวิกฤตให้เป็นโอกาสนั่นเอง กล่าวคือ การที่ปูนาได้ลดจำนวนลงหรือใกล้จะสูญพันธุ์ไปในที่สุด ก็ได้เกิดอาชีพหนึ่งขึ้นมาก็คือ "การเลี้ยงปูนา" ซึ่งเดิมที่ปูนาก็อยู่ในท้องนา ห้วย หนอง คลอง บึงต่างๆ แต่ในวันนี้ได้มีการนำมาเลี้ยงและเพาะพันธุ์กันอย่างแพร่หลาย เช่น บ่อปูนซีเมนต์ บ่อดิน กระชังบก เป็นต้น จนเกิดเป็นอาชีพใหม่ในทุกวันนี้ดังจะเห็นได้จากปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่ได้ให้ความสนใจหันมาประกอบอาชีพการเลี้ยงปูนาขายกันมากขึ้น โดยก็จะเริ่มขายได้ตั้งแต่ปูนาอายุได้ 2-3 เดือนขึ้นไปเลยทีเดียว... น่าสนใจไหมครับ? ซึ่งปูนาก็จะมีหลายสายพันธุุ์กันออกไป เช่น พันธุ์กำแพง พันธุ์พระเทพ ซึ่งเป็นที่นิยมเลี้ยงขายกันในปัจจุบันนี้
(รายละเอียดแต่ละสายพันธุ์จากบทความหน้านะครับ)
วิธีการเลี้ยงปูนา นั้นเดิมทีอาจจะคิดว่ายากเพราะว่าเรายังไม่เข้าใจในธรรมชาติของปูนากันสักเท่าไรนัก จึงต้องมีการศึกษาหาข้อมูลและเรียนรู้ในการดำรงชีวิตของปูนา พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์นั้นมาเป็นองค์ความรู้ในการเลี้ยงปูนา โดยธรรมชาติของปูนานอกจากการอยู่แบบธรรมชาติแล้วก็ยังต้องมีองค์ประกอบอื่นอีกหลายอย่างด้วย เช่น อุณหภูมิของน้ำ อากาศ ดิน เป็นต้น
อาหารของปูนา ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน "อาหารปูนา" นอกจากจะเป็นอาหารจากธรรมชาติแล้วก็ยังมีอาหารที่ใช้เลี้ยงปูนาอย่างเช่น อาหารเม็ดเลี้ยงลูกอ๊อด อาหารเม็ดเลี้ยงปลาดุก ไข่เป็ด(ไข่แดง) เป็นต้น การเลี้ยงก็จะอยู่ที่ 1-2 ครั้ง/วัน ก็ได้ ขนาดของปูนา ก็จะมีขนาดแตกต่างกันไป คือ
- ปูนาอายุประมาณ 2-3 เดือน ที่เรียกว่า "ปูจ๋า" จะมีทั้งตัวผู้และตัวเมียซึ่งวิธีการ คือ ตัวผู้จะมีก้ามใหญ่ หน้าท้องจะมีรอยหยักเป็นชั้นๆ คล้ายซิกแพคของคนเรา แต่ตัวเมียจะมีก้ามเล็กกว่า หน้าท้องเรียบๆ มีเส้นขีดยาวแนวนอนกับลำตัวนั่นเอง...ส่วนใหญ่ปูนาขนาดนี้นิยมนำมาทำเมนูปูดอง ทอด
- ปูนาอายุประมาณ 4-5 เดิอน ก็พร้อมที่จะผสมพันธุ์แล้ว ก็จะตั้งท้องสักระยะประมาณ 2-3 เดือน ก็จะปล่อยลูกออกมาจากหน้าท้องประมาณ 500-700 ตัวเลยทีเดียว โดยให้อาหารเม็ดลูกอ๊อดก็ได้เลี้ยงในขณะตั้งท้องนั่นเอง
- ปูนาอายุประมาณ 6-7 เดือน จะมีการสลัดก้ามโดยธรรมชาติเพื่อให้เดินได้คล่องแคล่ว แต้ก็จะมีก้ามใหม่งอกขึ้นมาทดแทนนั่นเอง ปูนาลอกคราบกลายเป็นปูนิ่มซึ่งก็จะคล้ายกับน้ำนมอยู่ในลำตัวสามารถนำไปขายได้อีกด้วย ซึ่งปูนาจะลอกคราบทุกเดือนอยู่แล้ว อาจจะนำไปแช่แข็งพร้อมส่งขายได้เลย
การนำปูนามาแปรรูปทำเมนูต่างๆ เช่น น้ำพริกปูนา กะปิปูนา ปูนาดอง ปูนาทอด น้ำยาปูนา ปูนาหล่น อ่องมันปูนา เป็นต้น เห็นไหมล่ะครับว่าเราสามารถเลี้ยงปูนาแล้วนำมาแปรรูปเป็นอาหารต่างๆได้หลากหลายมาก ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เราพอจะมองออกหรือยังว่าการเลี้ยงปูนา สามารถนำมาต่อยอดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัวสบายๆเลย หรือจะเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ดีอีกด้วย...ดังจะเห็นความสำเร็จในอาชีพของคนรุ่นใหม่หลายที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนี้...
ส่วนขั้นตอนการเลี้ยงปูนาอย่างไร? ให้ประสบความสำเร็จมีรายได้ดี เริ่มจากการเตรียมบ่อเลี้ยงปูนา การดูแลและรักษาบ่อเลี้ยง การเลี้ยงและเพาะพันธุ์ปูนา การเลี้ยงอาหารปูนา รวมทั้ง การจัด-ส่งจำหน่ายปูนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือจะเป็นการจำหน่ายแบบเป็นพ่อแม่พันธุ์ ขายปูนาสดเป็นกิโล ขายแม่พันธุ์ที่ตั้งท้องก็ได้เช่นกัน เป็นต้น ต้องทำอย่างไรนะ?
โปรดติดตามบทความพร้อมข้อมูลที่เป็นปประโยชน์จากเราในครั้งต่อไปนะครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่นี่ : สมัครสมาชิกฟรี
ลงทะเบียนฟรี Website : https://bit.ly/2TCpaWA
Fanpage Inbox : https://www.facebook.com/pkpunathai/inbox/
Fanpage Inbox : https://www.facebook.com/pkpunathai/inbox/
Line@ : มี “@” นำหน้า @pkpunathai หรือ https://line.me/R/ti/p/%40pkpunathai
Tel. : 093-961-6251, 083-699-5325